เหยื่อเพชรปลอมกว่า 800 ราย ร้อง ผบ.ตร.ตามจับ “เพชรพันปี”
ตัวแทนผู้เสียหาย 10 คน จากการถูกหลอกขายเพชรไม่มีคุณภาพ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาทเข้าร้องเรียนกับ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร เพื่อขอความช่วยเหลือให้ติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายจักรพงศ์ ชุ่มชื่น อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Sam Chakkapong และได้เห็นการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กชื่อ Pw gems &Diamond โรงงาน ผลิตเพชรแท้ ราคาส่ง ได้โพสต์ประกาศขายสินค้าประเภท กล่องสุ่มแหวนนพเก้า พลอยแท้ 100 จึงสนใจสั่งซื้อแหวนพลอยฝังเพชร จำนวน 1 วง ในราคา 15,900 บาท และได้ทำการโอนเงินไปธนาคารกสิกรไทย ชื่อ น.ส.เพชรพันปี เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 เวลา 21.59 น. เป็นเงินจำนวน 15,900 บาท หลังจากโอนเงิน ผู้ขายได้ส่งสินค้า โดยนำแหวนพลอยฝังเพชร ส่งมาให้ แต่พอและได้ไปตรวจดูเนื้อวัสดุ พบว่า สินค้าที่ได้รับนั้นเป็นของปลอม ไม่ตรงตามที่ผู้ขายประกาศขาย จึงเชื่อว่าถูกหลอกทำให้เสียหาย และได้ทราบว่ามีกลุ่มผู้เสียหายอีกจำนวนหลายราย จึงได้รวมตัวกันมาร้องเรียนรายการทีวีรายการหนึ่งเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่วนผู้ต้องหาได้ออกรายการเมื่อวันที่ 10 ม.ค. บอกจะคืนเงินให้หมด แต่หลังออกรายการไปแล้วก็ยังไม่ได้คืน และบล็อกหาว่าตนเองกลั่นแกล้ง
ขณะที่ น.ส.ภัณฑิรา สงประเสริฐ อายุ 33 ปี ได้สั่งซื้อกล่องสุ่ม จำนวน 1 กล่อง โดยมีสินค้าเป็นจิวเวลรี่ ซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท จากทางร้านเพชร “Pw Gems & Diamond โรงงานผลิต เพชรแท้ ราคาส่ง” หลังจากที่ตกลงกันแล้วผู้แจ้งจึงได้ทำการโอนเงิน จำนวน 30,000 บาท ไปเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.65 และได้โอนเงินไปให้ น.ส.เพชรพันปี หลังจากที่โอนเงินไปเรียบร้อยแล้วทางฝ่ายผู้ขายได้ทำการส่งสินค้ามาให้ เมื่อเปิดดูสินค้าได้พบว่าสินค้าภายในเป็นแหวนเพชร จำนวน 1 วง และต่างหูจำนวน 1 คู่ ต่อมาได้นำไปตรวจสอบพบว่าเพชรเม็ดกลางที่ต่างหูเป็นเกรด S ซึ่งตามที่โฆษณาไว้เพชรเม็ดกลางนี้ต้องเป็นเพชรเบลเยี่ยมแท้ น้ำ 98 WS 2 เม็ด 10 ตัง ซึ่งถือว่าไม่ตรงกับที่ทางร้านไๆด้แจ้งไว้ จึงได้ทำการแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ที่ สน.หลักสอง
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวว่า จากการพูดคุยพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 700-800 คน มีผู้ต้องสงสัย 1 คนพบมีการเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 5-6 ครั้ง พฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน และหลอกขายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งมีรายละเอียดลักษณะการกระทำความผิดแตกต่างกันไป มีมูลค่าความเสียหาย ตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสน
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้รวมตัวกันตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมา โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้ง ศปก.บริหารคดีออนไลน์ รับแจ้งความทางออนไลน์ จึงขอให้ทางผู้เสียหายไปประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกขายเพชรเช่นเดียวกันว่ามีช่องทางดังกล่าวในการแจ้งเรื่อง
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวว่า ทั้งนี้ มีผู้เสียหายจำนวนมาก และบางส่วนได้ไปออกรายการทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งแล้ว และได้มีการไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคแล้ว แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า แต่เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก จึงจะให้ผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความทางออนไลน์ไว้ก่อน แล้วทางผู้บริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบริหารคดีออนไลน์ว่าจะมอบให้กองบัญชาไหนเป็นผู้รวบรวมพยานหลักฐานและเป็นผู้รับผิดชอบในคดีนี้ เพื่อจะคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายทั้งหมด
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ยังได้ฝากเตือนว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สร้างสื่อประชาสัมพันธ์ออกไปเยอะมาก เพื่อจะให้ประชาชนได้รู้เท่าทันกลโกงที่จะใช้ในการหลอกลวงประชาชน ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น การหลอกขายของ หลอกให้โอนเงิน ฯลฯ หากจะทำอะไรขอให้มีสติอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ใครจะมาหลอกเราก็จะได้ไม่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อได้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ outerislandtours.com
